ใช้การตั้งค่าสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ Android
รุ่นที่รองรับฟีเจอร์นี้ ได้แก่ Frontline, Business Plus, องค์กร, Education Fundamentals, Standard, Teaching and Learning Upgrade, และ Plus, G Suite Basic และ Business, Cloud Identity Premium เปรียบเทียบรุ่นของคุณ

ในฐานะผู้ดูแลระบบ คุณสามารถควบคุมวิธีที่ผู้ใช้เข้าถึงและโต้ตอบกับอุปกรณ์ Android ได้โดยใช้การตั้งค่านโยบาย
ข้อกำหนด
ค้นหาและตั้งค่า Android
โดยทั่วไปการเปลี่ยนแปลงจะมีผลภายในเวลาไม่กี่นาที แต่อาจใช้เวลาสูงสุด 24 ชั่วโมง โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อการเปลี่ยนแปลงมีผลกับบริการของ Google อย่างไร
ดัชนีการตั้งค่า Android
เปิดทั้งหมด | ปิดทั้งหมด
เปิดทั้งหมด | กลับไปที่ดัชนี
รองรับในอุปกรณ์ Android 6.0 Marshmallow ขึ้นไปที่ใช้ Android Device Policy ใช้ไม่ได้กับ Education Fundamentals บล็อกอุปกรณ์ Android ที่ไม่สอดคล้องตามข้อกำหนดชุดเครื่องมือทดสอบความเข้ากันได้ (CTS) โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อชุดเครื่องมือทดสอบความเข้ากันได้
ใช้โปรไฟล์งานเพื่อแยกแอปขององค์กรออกจากแอปส่วนตัว ส่วนพื้นที่ส่วนตัวของผู้ใช้ที่นำอุปกรณ์มาเอง (BYOD) จะยังคงเป็นส่วนตัวและใช้ได้เฉพาะผู้ใช้เท่านั้น โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อโปรไฟล์งานคืออะไร
เปิดทั้งหมด | กลับไปที่ดัชนี
รองรับในอุปกรณ์ Android 7.0 Nougat ขึ้นไป บังคับใช้การตั้งค่ารหัสผ่านเฉพาะในแอปที่เรียกใช้ในโปรไฟล์งานของผู้ใช้ และอนุญาตให้ผู้ใช้กำหนดการตั้งค่าหน้าจอล็อกสำหรับอุปกรณ์ของตนเองได้ หากต้องการบังคับใช้การตั้งค่ารหัสผ่านในอุปกรณ์ทุกเครื่อง ให้ยกเลิกการเลือกช่องใช้การกำหนดให้ป้อนรหัสผ่านในแอปที่ใช้โปรไฟล์งานเท่านั้น หมายเหตุ: สําหรับอุปกรณ์ที่เก่ากว่า Android 7.0 ระบบจะบังคับใช้การตั้งค่ารหัสผ่านในอุปกรณ์ทุกเครื่องเสมอ
รองรับในอุปกรณ์ของบริษัทและอุปกรณ์ที่นํามาใช้เองที่มีโปรไฟล์งาน เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอื่น
เปิดทั้งหมด | กลับไปที่ดัชนี
อนุญาตให้ผู้ใช้ค้นหาและติดตั้งแอปทั้งหมดใน Google Play Store หรือเฉพาะแอปที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น หมายเหตุ: การตั้งค่านี้จะลบล้างการตั้งค่า การเข้าถึงของผู้ใช้ สําหรับแอปในรายการแอปในเว็บและอุปกรณ์เคลื่อนที่
สําหรับแอปในรายการแอปในเว็บและอุปกรณ์เคลื่อนที่ หากเลือก แอปทั้งหมด ผู้ใช้จะติดตั้งแอปใดก็ได้ใน Google Play Store รวมถึงแอปที่ตั้ง การเข้าถึงของผู้ใช้ เป็น ปิด และแอปที่ไม่มีการจัดการ
ผู้ใช้จะติดตั้งแอปใดก็ได้ใน Google Play Store รวมถึงแอปที่ตั้ง เป็น และแอปที่ไม่มีการจัดการ หากเลือกเฉพาะแอปที่อนุญาต ผู้ใช้จะติดตั้งได้เฉพาะแอปในรายการแอปในเว็บและอุปกรณ์เคลื่อนที่เท่านั้น แต่แอปที่ไม่มีการจัดการที่ติดตั้งไว้ในเครื่องอยู่แล้วจะอยู่ในเครื่องต่อไป
รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป อนุญาตให้ผู้ใช้จับภาพหน้าจอของอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ หากต้องการบล็อกการจับภาพหน้าจอในแอปงาน ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตการจับภาพหน้าจอ ในกรณีนี้ผู้ใช้จะจับภาพหน้าจอได้เฉพาะในแอปส่วนตัวเท่านั้น
รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอื่น อนุญาตให้ผู้ใช้แชร์ข้อมูลและไฟล์จากโปรไฟล์งานไปยังพื้นที่ส่วนตัวในอุปกรณ์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเลือกช่องอนุญาตการแชร์เนื้อหาจากโปรไฟล์งานไปยังพื้นที่ส่วนตัวมีดังนี้ ผู้ใช้สามารถแชร์เนื้อหาจากโปรไฟล์งานกับแอปต่างๆ ในพื้นที่ส่วนตัวของผู้ใช้ได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถเพิ่มเอกสารจากที่ทำงานไปยังแอป Gmail ส่วนตัว
ข้อมูลหมายเลขผู้โทรจากโปรไฟล์งานจะปรากฏในพื้นที่ส่วนตัวเมื่อมีสายเรียกเข้า
(เฉพาะในอุปกรณ์ Android 7.0 Nougat ขึ้นไปที่ใช้ Google Workspace เท่านั้น) ผู้ใช้สามารถค้นหารายชื่อติดต่อของที่ทํางานได้จากพื้นที่ส่วนตัว
ระบบจะเปิด URL ในพื้นที่ส่วนตัวหากไม่มีเบราว์เซอร์ในโปรไฟล์งาน
แอปแผนที่ในโปรไฟล์ส่วนตัวจะเปิดสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์หากไม่มีแอปแผนที่ในโปรไฟล์งาน เมื่อเลือกช่องนี้ ระบบจะไม่อนุญาตการแชร์เนื้อหาจากพื้นที่ส่วนตัวไปยังโปรไฟล์งาน เช่น ผู้ใช้จะไม่สามารถ ดูงานและปฏิทินส่วนตัวร่วมกันได้ในโปรไฟล์งาน
รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไปที่มีโปรไฟล์งาน อนุญาตให้ผู้ใช้คัดลอกข้อความจากแอปในโปรไฟล์งาน แล้ววางในแอปใดก็ได้ในพื้นที่ส่วนตัว หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้คัดลอกข้อมูลงานไปยังแอปส่วนตัว ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตการวางข้อมูลระหว่างโปรไฟล์งานและพื้นที่ส่วนตัว
อนุญาตให้ผู้ใช้แชร์เนื้อหาระหว่างอุปกรณ์ Android กับ Android Beam ซึ่งใช้ Near Field Communication (NFC) ได้ หากต้องการบล็อกการแชร์ข้อมูลกับ Android Beam ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตบีมขาออก
รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป อนุญาตให้ผู้ใช้เปิดหรือปิดบริการตำแหน่งของ Google แอปจะใช้ข้อมูลตำแหน่งเพื่อให้บริการตามสถานที่ เช่น การดูสภาพการจราจรหรือค้นหาร้านอาหารที่อยู่ใกล้เคียง การตั้งค่านี้ยังช่วยให้ผู้ใช้จัดการอุปกรณ์ Android ได้จากหน้าอุปกรณ์ของฉันอีกด้วย หากต้องการบล็อกการแชร์ตําแหน่งสําหรับแอปทั้งหมด ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตการแชร์ตําแหน่ง
อนุญาตให้ผู้ใช้ Android เข้าถึงและเผยแพร่แอปส่วนตัวได้ใน Google Play หากต้องการอนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงแอปส่วนตัวที่เผยแพร่ไว้ได้ ให้เลือกช่อง อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงแอปส่วนตัวใน Google Play
หากต้องการอนุญาตให้ผู้ใช้สร้างและอัปเดตแอป Android เพื่อการใช้ภายในและเผยแพร่แอปไปยังผู้ใช้ต่างๆ ในโดเมน ให้เลือกช่องอนุญาตให้ผู้ใช้เผยแพร่และอัปเดตแอปส่วนตัวใน Google Play หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอปส่วนตัว โปรดดูหัวข้อจัดการแอปส่วนตัวใน Google Play
รองรับในอุปกรณ์ Android 6.0 Marshmallow ขึ้นไป หมายเหตุ: การปฏิเสธสิทธิ์รันไทม์อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของแอปบางแอป กำหนดคำตอบเริ่มต้นสำหรับคำขอสิทธิ์จากแอปตามรันไทม์ ค่ากำหนดสิทธิ์ที่กำหนดไว้ให้แอปแต่ละแอปในรายการแอปที่มีการจัดการจะลบล้างการตั้งค่านี้ โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อจัดการสิทธิ์รันไทม์สำหรับแอป Android
รองรับในอุปกรณ์ Android Marshmallow 6.0 ขึ้นไปที่เป็นของบริษัท อนุญาตให้ผู้ใช้ถอนการติดตั้งแอป ปิดใช้แอป บังคับให้หยุด (หยุดกระบวนการ) แสดงการแจ้งเตือน และล้างข้อมูล แคช หรือค่าเริ่มต้น หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าแอป ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าแอป
รองรับในอุปกรณ์ Android Marshmallow 6.0 ขึ้นไปที่เป็นของบริษัท อนุญาตให้ผู้ใช้ปิด Google Play Protect (เดิมคือ "ยืนยันแอป") ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช่วยป้องกันการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายในอุปกรณ์ Android และยังสแกนอุปกรณ์เพื่อหาแอปที่อาจเป็นอันตรายอยู่เป็นระยะด้วย โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อช่วยป้องกันแอปที่เป็นอันตรายด้วย Google Play Protect หากต้องการให้ Play Protect เปิดอยู่ตลอดเวลา ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้ผู้ใช้ปิด Google Play Protect
รองรับในอุปกรณ์ Android Marshmallow 6.0 ขึ้นไปที่เป็นของบริษัท อนุญาตให้ผู้ใช้โอนไฟล์เข้าและออกจากอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยใช้การเชื่อมต่อ USB หากต้องการบล็อกการโอนผ่านการเชื่อมต่อ USB ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้โอนไฟล์ USB
รองรับในอุปกรณ์ Android 8.0 Oreo ขึ้นไป ป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปจากแหล่งที่มาอื่นนอกเหนือจาก Google Play Store เมื่อเลือกตัวเลือกนี้ ผู้ใช้จะยังคงติดตั้งแอปจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จักในพื้นที่ส่วนตัวได้หากอุปกรณ์มีโปรไฟล์งาน หากต้องการอนุญาตให้ติดตั้งแอปจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก ให้ยกเลิกการเลือกช่องบล็อกการติดตั้งแอปจากแหล่งที่มาที่ไม่รู้จัก
รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ในอุปกรณ์ หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้ใช้ตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตตัวเลือกสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ หากอุปกรณ์มีโปรไฟล์งาน ผู้ใช้จะยังเปิดตัวเลือกสําหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับพื้นที่ส่วนตัวของตนเองได้ เช่น ผู้ใช้สามารถโหลดแอปจากแหล่งที่ไม่รู้จัก (ดาวน์โหลดแล้วใช้โปรแกรมจัดการไฟล์ในการติดตั้ง) จากคอมพิวเตอร์ลงในพื้นที่ส่วนตัวได้ แต่จะทำเช่นนี้ในโปรไฟล์งานไม่ได้
รองรับในอุปกรณ์ Android Marshmallow 6.0 ขึ้นไปที่เป็นของบริษัท
เปิดทั้งหมด | กลับไปที่ดัชนี
อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่ม แก้ไข เชื่อมต่อ หรือลบเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) ในอุปกรณ์ของตนได้ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการตั้งค่า VPN ในอุปกรณ์ของตนได้โดยแตะการตั้งค่า ระบบไร้สายและเครือข่าย เพิ่มเติม VPN หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้แก้ไขการกําหนดค่า VPN ในอุปกรณ์ ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตการกําหนดค่า VPN
อนุญาตให้ผู้ใช้ตั้งค่าและใช้ฮอตสปอต Wi-Fi และบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านมือถือด้วย USB และบลูทูธได้ หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้ใช้การเชื่อมต่อประเภทนี้ ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านมือถือและฮอตสปอต Wi-Fi
อนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าสำหรับการเข้าถึงข้อมูลและการโรมมิ่งในอุปกรณ์ได้ การตั้งค่านี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่อไปนี้ได้ แสดงชื่อเครือข่ายมือถือในแถบสถานะ
เปลี่ยนชื่อจุดเข้าใช้งาน (APN)
เลือกผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเหล่านี้ ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าเครือข่ายอุปกรณ์เคลื่อนที่
อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกใช้การแจ้งเตือนภัย เช่น เหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับสภาพอากาศและการแจ้งเตือนเด็กหาย (AMBER) ในอุปกรณ์ที่มีซิมการ์ด หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าการส่งข้อมูลเตือนภัยทางมือถือ (CB) ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการส่งข้อมูลเตือนภัยทางมือถือ (CB)
อนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าบลูทูธในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของตน หมายเหตุ: สําหรับ Android 6.0 Marshmallow ขึ้นไป หากต้องการอนุญาตให้ผู้ใช้กําหนดการตั้งค่าบลูทูธได้ คุณต้องอนุญาตการแชร์ตําแหน่งด้วย (ในส่วนแอปและการแชร์ข้อมูล) หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าบลูทูธ ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้เปลี่ยนการตั้งค่าบลูทูธ
อนุญาตให้ผู้ใช้เปลี่ยนการตั้งค่าเครือข่าย Wi-Fi ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของตน หากต้องการบล็อกไม่ให้เปลี่ยนการตั้งค่า Wi-Fi ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้เปลี่ยนการตั้งค่าเครือข่าย Wi-Fi
รองรับในอุปกรณ์ Android 6.0 Marshmallow ขึ้นไปที่เป็นของบริษัท เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอื่น
เปิดทั้งหมด | กลับไปที่ดัชนี
สําหรับอุปกรณ์ที่มีช่องการ์ด SD ภายนอก ผู้ใช้สามารถย้ายข้อมูลหรือแอปพลิเคชันไปยังการ์ด SD ได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว อุปกรณ์ต่างๆ มักจะใช้การ์ด SD เป็นที่เก็บข้อมูลที่ถอดออกได้ หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้คัดลอกข้อมูลไปยังการ์ด SD ภายนอก ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตการ์ด SD ภายนอก
อนุญาตให้ผู้ใช้แก้ไขแบบฟอร์มผู้ออกใบรับรอง (CA) สําหรับโปรไฟล์งานของตนในตั้งค่า ความปลอดภัย ข้อมูลเข้าสู่ระบบที่เชื่อถือได้ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ หากต้องการบล็อกไม่ให้แก้ไขใบรับรอง CA ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงข้อมูลเข้าสู่ระบบที่เชื่อถือได้ หากไม่เลือกช่องนี้ ผู้ใช้จะยังคงดูใบรับรอง CA สําหรับโปรไฟล์งานของตนได้
อนุญาตให้ใช้ไมโครโฟนของอุปกรณ์ หากต้องการปิดเสียงไมโครโฟนและป้องกันไม่ให้เปิดอีก ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตไมโครโฟน คุณอาจต้องการบล็อกการใช้ไมโครโฟนเพื่อให้มั่นใจว่าแอปที่เป็นอันตรายจะไม่ใช้ไมโครโฟนบันทึกเสียงรอบๆ อุปกรณ์
อนุญาตให้ใช้ลำโพงของอุปกรณ์ หากต้องการปิดเสียงลําโพงสําหรับแอปในโปรไฟล์งานและป้องกันไม่ให้เปิดอีก ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตลําโพง
รองรับในอุปกรณ์ Android 5.1 Lollipop และรุ่นก่อนหน้า เมื่อเลือกแล้ว PIN การจํากัดของผู้ดูแลระบบที่ระบุจะซิงค์กับอุปกรณ์ของผู้ใช้ โดย PIN ต้องเป็นตัวเลขอย่างน้อย 5 ตัว ระบบจะขอให้ผู้ใช้ป้อน PIN นี้เมื่อพยายามรีเซ็ตโทรศัพท์ หรือเปลี่ยนการตั้งค่า Wi-Fi หรือบลูทูธ หากไม่ต้องการให้เปลี่ยนแปลง PIN การจำกัดของผู้ดูแลระบบ ให้ยกเลิกการเลือกช่องเปิดใช้งานการจัดการระยะไกลสำหรับ PIN การจำกัดของผู้ดูแลระบบ หากต้องการอัปเดต PIN คุณต้องเลือกช่องนี้เพื่อตั้ง PIN ใหม่และอนุญาตให้ซิงค์กับอุปกรณ์
อนุญาตให้บัญชีผู้ดูแลระบบที่ระบุลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ของบริษัทได้หลังจากที่รีเซ็ตเป็นการตั้งค่าเริ่มต้น ผู้ที่สามารถลงชื่อเข้าใช้หลังการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นได้จะกำหนดโดยขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์เป็นของบริษัทในลักษณะใดและไคลเอ็นต์การจัดการของอุปกรณ์ สำหรับอุปกรณ์ในคลังของบริษัทที่มีแอป Google Device Policy จะมีเพียงบัญชีที่ระบุไว้ในรายการเท่านั้นที่ลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์หลังการรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นได้
สำหรับอุปกรณ์ในคลังของบริษัทที่มี Android Device Policy ทั้งบัญชีที่ระบุไว้และเจ้าของเดิมสามารถลงชื่อเข้าใช้อุปกรณ์ได้
สำหรับอุปกรณ์ส่วนบุคคลที่ตั้งค่าสำหรับที่ทำงานเท่านั้น (สิทธิ์ระดับเจ้าของอุปกรณ์) ทั้งบัญชีที่ระบุและเจ้าของคนก่อนหน้านี้จะลงชื่อเข้าใช้ในอุปกรณ์ได้ หากต้องการเพิ่มผู้ดูแลระบบ ให้ป้อนอีเมลและคลิกเพิ่ม หมายเหตุ: โปรดยืนยันให้แน่ใจว่าคุณเข้าถึงบัญชีผู้ดูแลระบบได้ก่อนจะรีเซ็ตอุปกรณ์ ทีมสนับสนุนไม่สามารถปลดล็อกหรือกู้คืนอุปกรณ์ที่รีเซ็ตแล้วจากระยะไกลได้ หากมีปัญหาในการปลดล็อกอุปกรณ์ที่ผ่านการรีเซ็ต โปรดติดต่อผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อรับความช่วยเหลือ ข้อกำหนดของบัญชี คุณสามารถป้อนอีเมลได้ไม่เกิน 10 รายการ เราขอแนะนำให้ป้อนอีเมลมากกว่า 1 รายการเผื่อเกิดปัญหากับบางอีเมลที่ใช้
ยืนยันว่าอีเมลต่างที่เพิ่มไว้เป็นอีเมลที่ใช้งานได้และไม่เคยถูกลบหรือระงับการใช้งาน หากบัญชีอีเมลที่ใช้ถูกลบหรือระงับการใช้งาน คุณอาจเข้าถึงอุปกรณ์ที่ถูกการรีเซ็ตไม่ได้แม้ว่าจะกู้คืนบัญชีแล้วก็ตาม
โปรดอย่าใช้อีเมลกลุ่ม เพราะบัญชีกลุ่มจะไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ที่ถูกรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นได้ ก่อนรีเซ็ตอุปกรณ์ ให้ทำดังนี้ ออกจากระบบและนําบัญชีงานหรือโรงเรียนของผู้ใช้ออก
หากผู้ใช้ไม่ทราบรหัสผ่านของตัวเอง ให้รีเซ็ตรหัสผ่าน คุณต้องรีเซ็ตรหัสผ่านก่อนล้างข้อมูลอุปกรณ์ หากไม่ดำเนินการทันที ผู้ใช้อาจต้องรอนานถึง 24 ชั่วโมงก่อนลงชื่อเข้าใช้ในอุปกรณ์ได้อีกครั้ง
อนุญาตให้ผู้ใช้ตั้งวันที่และเวลาในอุปกรณ์ หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนวันที่และเวลา ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตให้ผู้ใช้แก้ไขวันที่และเวลา
รองรับในอุปกรณ์ Android 7.0 Nougat ขึ้นไปที่เป็นของบริษัท อนุญาตให้ผู้ใช้เข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตในขณะที่อยู่นอกพื้นที่ให้บริการของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ หากต้องการบล็อกไม่ให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตขณะโรมมิ่ง ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับบริการข้อมูลเมื่อโรมมิ่ง
อนุญาตให้ผู้ใช้รีบูตอุปกรณ์ในโหมดปลอดภัย ในโหมดปลอดภัย อุปกรณ์จะใช้เฉพาะแอปพื้นฐานที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าและปิดใช้แอปของบุคคลที่สามทั้งหมด หมายเหตุ: สําหรับอุปกรณ์ Android ที่ไม่ได้ติดตั้งแอป Google Apps Device Policy ไว้ล่วงหน้า โหมดปลอดภัยจะปิดใช้แอป Google Apps Device Policy เมื่อไม่ได้ใช้แอปนี้ อุปกรณ์จะหยุดซิงค์นโยบายการจัดการและผู้ใช้จะไม่สามารถเข้าถึงบัญชีงานหรือโรงเรียนในอุปกรณ์ได้ หากต้องการป้องกันไม่ให้ผู้ใช้รีบูตในโหมดปลอดภัย (แนะนํา) ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตให้ผู้ใช้รีบูตอุปกรณ์ในโหมดปลอดภัย
รองรับในอุปกรณ์ของบริษัทและอุปกรณ์ส่วนตัวที่มีโปรไฟล์งาน
เปิดทั้งหมด | กลับไปที่ดัชนี
รองรับในอุปกรณ์ Android 6.0 Marshmallow เท่านั้น อนุญาตให้ผู้ใช้อุปกรณ์หลักเพิ่มโปรไฟล์ผู้ใช้ในอุปกรณ์ได้ โดยโปรไฟล์ผู้ใช้แต่ละรายจะมีพื้นที่ส่วนตัวในอุปกรณ์สําหรับเก็บบัญชี แอป และการตั้งค่า
รองรับในอุปกรณ์ Android 6.0 Marshmallow เท่านั้น อนุญาตให้ผู้ใช้อุปกรณ์หลักนำโปรไฟล์ผู้ใช้ออกจากอุปกรณ์ได้ เมื่อนำโปรไฟล์ผู้ใช้ออกแล้ว ระบบจะนำบัญชีที่ถูกเพิ่มในโปรไฟล์ดังกล่าวออกด้วย
รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มและนำบัญชีออกจากอุปกรณ์ได้ โดยที่สามารถเพิ่มบัญชีที่มีการจัดการลงในอุปกรณ์ที่มีโปรไฟล์งานได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น หากต้องการนำบัญชีที่มีการจัดการออก ผู้ใช้จะต้องนำโปรไฟล์งานออกจากอุปกรณ์ของตนเอง หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เปลี่ยนบัญชีในอุปกรณ์ ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มและนำบัญชีออก หากไม่เลือกตัวเลือกนี้ คุณจะเปิดการตั้งค่าบัญชี Google ไม่ได้และผู้ใช้จะเพิ่มบัญชี Google ที่มีการจัดการในอุปกรณ์ของตัวเองไม่ได้
รองรับในอุปกรณ์ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มบัญชีงานหรือโรงเรียนในอุปกรณ์ได้ โดยเพิ่มบัญชีที่มีการจัดการในอุปกรณ์ที่มีโปรไฟล์งานได้เพียง 1 บัญชีเท่านั้น หมายเหตุ: หากต้องการเปิดการตั้งค่านี้ คุณต้องเปิดการตั้งค่าบัญชี หากต้องการบล็อกไม่ให้ผู้ใช้เพิ่มบัญชี Google ให้ยกเลิกการเลือกอนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มบัญชี Google ผู้ใช้ยังคงเพิ่มบัญชีในโปรไฟล์งานหรือในอุปกรณ์ผ่านทาง Microsoft Exchange, IMAP หรือ POP3 ได้
รองรับในอุปกรณ์ของบริษัทและอุปกรณ์ส่วนตัวในโหมดเจ้าของอุปกรณ์ที่ใช้ Android 6.0 Marshmallow ขึ้นไป
เปิดทั้งหมด | กลับไปที่ดัชนี
ใช้ไม่ได้กับ Education Fundamentals อนุญาตฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกทั้งหมด หากต้องการปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก เมื่อยกเลิกการเลือก ระบบจะบล็อกเฉพาะฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกในกลุ่มการตั้งค่านี้เท่านั้น ส่วนฟีเจอร์ที่ไม่อยู่ในรายการ เช่น การจดจำใบหน้า จะไม่ถูกบล็อก หากต้องการบล็อกฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกแต่ละรายการ ให้เลือกช่องอนุญาตฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก จากนั้นยกเลิกการเลือกช่องฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกที่ต้องการบล็อก
ใช้ไม่ได้กับ Education Fundamentals อนุญาตให้ใช้กล้องขณะล็อกอุปกรณ์ หากฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะปิดเช่นกันและจะเปลี่ยนไม่ได้จนกว่าคุณจะเปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก หากต้องการบล็อกไม่ให้ใช้กล้องจากหน้าจอล็อก ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตกล้อง
ใช้ไม่ได้กับ Education Fundamentals อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้เครื่องอ่านลายนิ้วมือของอุปกรณ์เพื่อปลดล็อกอุปกรณ์ หากฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะปิดเช่นกันและจะเปลี่ยนไม่ได้จนกว่าคุณจะเปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก หากต้องการบล็อกไม่ให้ปลดล็อกอุปกรณ์ด้วยเครื่องอ่านลายนิ้วมือ ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตให้ปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ
รองรับในอุปกรณ์ Android เวอร์ชัน 4.2 Jelly Bean ถึง 4.4 KitKat อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่มวิดเจ็ต เช่น วิดเจ็ตอีเมลและปฏิทินลงในหน้าจอล็อกในอุปกรณ์ของตน หากฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะปิดเช่นกันและจะเปลี่ยนไม่ได้จนกว่าคุณจะเปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก หากต้องการบล็อกวิดเจ็ตในหน้าจอล็อก ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตวิดเจ็ตในหน้าจอล็อก
ใช้ไม่ได้กับ Education Fundamentals อนุญาตให้ผู้ใช้รับการแจ้งเตือนในขณะที่อุปกรณ์ล็อก หากฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะปิดเช่นกันและจะเปลี่ยนไม่ได้จนกว่าคุณจะเปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก หากต้องการบล็อกการแจ้งเตือน ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตการแจ้งเตือนในหน้าจอล็อก เมื่อยกเลิกการเลือก ระบบจะปิดการตั้งค่ารายละเอียดการแจ้งเตือนด้วย
อนุญาตให้ผู้ใช้ดูรายละเอียดการแจ้งเตือนในขณะที่อุปกรณ์ล็อก หากการตั้งค่าการแจ้งเตือนปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้ก็ปิดเช่นกัน หากฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะปิดเช่นกันและจะเปลี่ยนไม่ได้จนกว่าคุณจะเปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก หากต้องการบล็อกรายละเอียดการแจ้งเตือน ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตรายละเอียดการแจ้งเตือน
ใช้ไม่ได้กับ Education Fundamentals อนุญาตให้ผู้ใช้ใช้ Smart Lock เพื่อให้อุปกรณ์ไม่ต้องล็อกหน้าจอในบางกรณี เช่น เมื่อโทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าหรืออยู่ที่บ้าน เมื่อใช้ Smart Lock ผู้ใช้จะไม่จำเป็นต้องใช้ PIN, รูปแบบ หรือรหัสผ่านในการปลดล็อก โปรดดูรายละเอียดที่หัวข้อตั้งค่าอุปกรณ์ Android เพื่อปลดล็อกโดยอัตโนมัติ หากฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อกปิดอยู่ ฟีเจอร์นี้จะปิดเช่นกันและจะเปลี่ยนไม่ได้จนกว่าคุณจะเปิดฟีเจอร์สำหรับหน้าจอล็อก หากต้องการบล็อกไม่ให้ใช้ Smart Lock ให้ยกเลิกการเลือกช่องอนุญาตให้ Smart Lock ป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ล็อก
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
Comments
Post Comments