Xiaomi มาแล้ว !! เปิดตัว 11T Series อย่างยิ่งใหญ่ มือถือคุณภาพสูงที่ราคาไม่สูงตาม
จบไปแล้วสำหรับงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Xiaomi ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ถือเป็นการเปิดตัว "11T Series" ที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ โดยในงานมีผลิตภัณฑ์หรือบริการอะไรที่น่าสนใจบ้าง บทความนี้เราสรุปมาให้คุณแล้ว 1. "Xiaomi 11T และ 11T Pro Series" สมาร์ทโฟนสเปคสูง แต่ราคาเอื้อมถึงได้ !! จะบอกว่างานนี้เป็นงานของ Xiaomi 11T Series ก็ไม่ผิดนัก เพราะกว่าครึ่งหนึ่งของงานเป็นการเปิดตัวของ 11T Series แทบทั้งสิ้น โดย 11T Series เปิดตัวออกมาทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน ประกอบไปด้วย 11T และ 11T Pro 11T Pro โดดเด่นด้วยฟังก์ชันชาร์จเร็ว 120W HyperCharge ที่ช่วยให้สามารถชาร์ตแบตเตอรี่ของ 11T Pro ที่มีขนาด 5,000mAh ได้ภายในเวลาเพียง 17 นาที โดย 10 นาทีจะเติมไฟให้เครื่องทั้งหมด 72% ตัวแบตเตอรี่จะคงความจุไว้ 80% หลังชาร์จไป 800 รอบ หรือพูดง่าย ๆ ว่าเราสามารถใช้งานได้ประมาณ 2 ปีนั่นเอง น่าเสียดายที่ตัวเครื่องไม่ซัพพอร์ตการชาร์จแบบไร้สาย สำหรับด้านกล้อง 11T Pro มาพร้อมกับกล้องหลังหลัง 3 เลนส์ ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 108MP, กล้อง ultrawide-angle ความละเอียด 8MP พร้อมเลนส์ 120 องศา, และกล้องเทเลมาโครขนาด 5MP

สำหรับ 11T ธรรมดา แม้จะมีสเปคต่ำกว่า แต่ก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยในเรื่องของหน้าจอและกล้องทั้ง 2 รุ่นมีสเปคที่เท่ากันแป๊ะ ที่แตกต่างก็คือเรื่องตัวชิปที่ใช้ โดย 11T ใช้ Dimensity 1200-Ultra เป็นชิปเซ็ตขนาด 6nm ของทาง Xiaomi เอง ที่แตกต่างอีกอย่างก็คือระบบการชาร์จเร็วของ 11T จะเป็น 67W สามารถชาร์จให้เต็ม 100% ในเวลา 36 นาที สำหรับ Xiaomi 11 Lite 5G NE เปิดตัวหลัง 11T Series ดังนั้นความน่าสนใจอาจดูน้อยลงไปมาก เพราะสำหรับแฟน ๆ แล้ว 11 Lite 5G NE เป็นการอัปเกรดของ 11 Lite เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เหมือนกับว่า Lite 5G NE จะขายเรื่องความบางของเครื่อง ที่หนาเพียง 6.81 มม. และหนักเพียง 159 กรัมเท่านั้น แบตเตอรี่ 4,250mAh ชาร์จเร็ว 33W สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง กันน้ำกันฝุ่น NFC และ IP53 มีให้เลือก 4 สี Truffle Black, Bubblegum Blue, Peach Pink และ Snowflake White เปิดตัวมาเป็นชิ้นที่ 3 สำหรับ Xiaomi Pad 5 น่าเสียดายที่วันก่อน Apple พึ่งเปิดตัว iPad และ iPad Mini ไป แถมราคาของทั้ง 3 เครื่องนี้ดันพอ ๆ กันด้วย คงต้องดูกันว่า ผู้บริโภคจะสนใจตัวไหนมากกว่ากัน สำหรับ Xiaomi Pad 5 เด่นที่สุดอยู่ 2 เรื่องด้วยกัน คือหน้าจอขนาด 11 นิ้ว ความละอียด 2560x1600px อัตราการรีเฟรช 120Hz ซัพพอร์ต HDR10 มีความจุแบตเตอรี่สูงมากถึง 8,720mAh ซึ่งมาพร้อมกับชาร์จเร็วระดับ 33W รองรับการใช้งาน Smart Pen ของ Xiaomi สามารถติดด้านข้างตัวเครื่องได้ ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 860 เป็นตัวประมวลผล Xiaomi Mi Smart Band 6 NFC เป็นรุ่นอัปเกรดจาก Band 6 นั่นเอง และสิ่งที่ใส่เพิ่มเข้ามานั่นก็คือระบบ NFC หรือระบบการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส ที่ตอนนี้ได้จับมือกับ Mastercard ช่วยให้เราใช้ Xiaomi Mi Smart Band 6 NFC แทนบัตร Mastercard ในการจ่ายเงินซื้อของสิ่งต่าง ๆ ได้แล้ว ประเด็นคือสำประเทศไทยอาจยังไม่เหมาะที่จะใช้เท่านั้นเอง นอกจากจ่ายเงินแล้ว ยังใช้ควบคู่ไปกับบริการขนส่งสาธารณะได้อีกด้วย บอกเลยประเทศไหนเจริญ ๆ ระบบขนส่งดี ๆ Smart Band 6 NFC นี่ถือว่าตีตลาดแตกแน่ Xiaomi Mesh System AX3000 คือเครื่องเราเตอร์ ที่จะช่วยกระจายเน็ตได้ทั่วพื้นที่ 370 ตร.ม. โดยไม่ต้องเชื่อมต่อสายให้ยุ่งยาก สามารถเชื่อมอินเทอร์เน็ตพร้อมกันได้ 254 อุปกรณ์ ซัพพอร์ต Wi-Fi 6 และ 2x2 MIMO สำหรับการเชื่อมต่อที่รวดเร็วระหว่างสองอุปกรณ์ อุปกรณ์ชิ้นสุดท้ายสำหรับงานในครั้งนี้ก็คือ Mi Smart Projector 2 ที่มาพร้อมกับความละเอียดของภาพ ระดับ 1,920 x 1,080 พิกเซล ขนาดของภาพจะแตกต่างไปตั้งแต่ 60 - 120 นิ้ว หรือในระยะที่ห่างจากกำแพง 1.6 - 3.2 เมตร ด้านหลังมีพอร์ต HDMI รองรับ Dolby Audio และแจ็ค 3.5 มม. สามารถเสียบลำโพงต่อเสริมเข้าไปได้ มาพร้อมกับ Android TV ภายในตัว สามารถใช้เป็นเครื่องดูรายการต่าง ๆ หรือใช้แอปต่าง ๆ ได้ดโดยตรง ไม่ต้องเสียบมือถือหรือกล่อง Android อื่น ๆ ให้ยุ่งยาก รองรับ DLNA สามารแชร์เนื้อหาได้แบบไร้สาย และมี USB 2.0 ในตัว พร้อมสรรพด้วยระบบผู้ช่วย Google Assistant สามารถสั่งงานได้โดยไม่ต้องเอื้อมไปหยิบรีโมท
Comments
Post Comments