8 อันดับ มือถือเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี ปี 2021

8 อันดับ มือถือเล่นเกม ยี่ห้อไหนดี ปี 2021

โทรศัพท์เล่นเกมที่ดีที่สุดที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังในเกมการต่อสู้ที่ดุเดือด

ด้วยคุณสมบัติของโทรศัพท์สำหรับเล่นเกม หรือ มือถือเล่นเกม (gaming phone) ที่ดีที่สุด ทำให้เกมบนมือถือดูน่าตื่นเต้นได้เหมือนกับเกมคอนโซล

โทรศัพท์เหล่านี้ช่วยมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่มีคุณภาพ พร้อมคุณสมบัติของสมาร์ทโฟนให้กับผู้ใช้ มีทั้งการติดตั้งโปรเซสเซอร์, RAM และจอแสดงผลที่ดีที่สุดในตลาด เพื่อให้เกมมือถือของคุณดูสมจริง และให้ความรู้สึกที่ดีในการเล่น

บริษัทอย่าง Razer และ Asus ที่นักเล่นเกมน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ได้นำความเชี่ยวชาญในด้านนี้มาสู่การผลิตโทรศัพท์ที่เน้นการเล่นเกมโดยเฉพาะในปัจจุบัน และโทรศัพท์รุ่นยอดนิยมจาก Samsung, OnePlus และแม้แต่ Apple ต่างก็มีสเปกชั้นนำในระดับเดียวกัน สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสนุกไปกับเกมเหล่านี้

• โทรศัพท์ที่ดีที่สุดโดยรวม: รุ่นที่เราอยากแนะนำในปัจจุบัน

• โทรศัพท์ Android ที่ดีที่สุดที่สามารถเลือกซื้อได้ในตอนนี้

หากคุณชอบเล่นเกม Fortnite หรือ Arena of Valor ระหว่างกำลังเดินทาง สามารถเลือกซื้อโทรศัพท์เล่นเกมที่ดีที่สุดได้จากบทความของเรา

โทรศัพท์ มือถือเกมมิ่ง ที่ดีที่สุดของเราคือ Asus ROG Phone 5 ที่เพิ่งเปิดตัว เพราะมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมทั้งจอแสดงผล 144Hz, RAM สูงสุด 16GB, ชิปเซ็ต Snapdragon 888 และแบตเตอรี่ 6,000 mAh ที่มีอายุการใช้งานยาวนานรวมอยู่ในเครื่องเดียว หากคุณสนใจในการเล่นเกม ก็ไม่มีรุ่นไหนดีกว่ารุ่นนี้

แต่ถ้าคุณต้องการอุปกรณ์สำหรับการเล่นเกม และยังใช้งานได้รอบด้านด้วย เราขอแนะนำ Samsung Galaxy Note 20 Ultra ซึ่งมีราคาค่อนข้างแพงที่ประมาณ 40,000 บาท แต่ยังให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม เป็นหนึ่งในโทรศัพท์รุ่นแรกที่รองรับการสตรีม Xbox Game Pass และมีจอแสดงผลอัตราการรีเฟรช 120Hz ที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนได้

อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือรุ่น OnePlus 9 Pro บรรจุแผง 120Hz พร้อมกับซอฟต์แวร์ที่ยอดเยี่ยมจาก Oxygen OS ของ OnePlus บนระบบปฏิบัติการ Android 11 สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์ราคาถูก และยังมอบประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง รุ่น RedMagic 5G ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มราคา ด้วยคุณสมบัติที่เน้นการเล่นเกมและหน้าจอที่ตอบสนองได้เหมือนกับ ROG Phone 5 ในราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 20,000 บาท

ถ้าคุณนึกถึงการซื้อ iPhone เราอยากแนะนำว่าโทรศัพท์มือถือของ Apple ไม่มีคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับเกมมากนัก ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลอัตราการรีเฟรชที่มีค่าสูง และอินพุตที่ปรับแต่งได้ ซึ่งต่างกับโทรศัพท์ส่วนใหญ่ในบทความที่รองรับคุณสมบัติเหล่านี้ แต่ไอโฟนบางรุ่นมี Cupertino silicon ที่ไม่มีรุ่นไหนเทียบได้ และยังมีชิปเซ็ต A14 Bionic ใน iPhone 12 Pro Max ที่เร็วกว่ารุ่นที่ดีที่สุดของ Qualcomm ที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นก็ยังเหมาะสำหรับการเล่นเกมที่ต้องใช้คุณสมบัติเหล่านี้

โทรศัพท์ Galaxy S21 Plus ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ Samsung ทรงโค้งมนที่เหมาะสำหรับการเล่นเกม ผสมผสานคุณภาพหน้าจอที่มหัศจรรย์เข้ากับกล้องที่ยอดเยี่ยมสามตัว และยังให้ประสิทธิภาพระดับชั้นนำ มีราคาเหมาะสมอยู่ที่ประมาณ 32,000 บาท ถือเป็นโทรศัพท์สำหรับเล่นเกมที่ดีในฐานะรุ่นยอดนิยม รุ่นใหม่อย่าง Oppo Find X3 Pro ก็มีคุณสมบัติที่คล้ายคลึงกัน ให้การแสดงผล, RAM และเทคโนโลยีกล้องที่ดีกว่า Samsung มาก

คุณสามารถอ่านข้อมูลในบทความของเราเพื่อเจาะลึกรายละเอียดของโทรศัพท์สำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดแต่ละรุ่นที่เราได้ทดสอบ โดยมีข้อมูลตั้งแต่คุณสมบัติพื้นฐาน และข้อดีข้อเสียของแต่ละรุ่น

โทรศัพท์สำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดในตอนนี้

หากคุณจริงจังกับเกมบนมือถือของคุณ และต้องการอัตราเฟรมสูงสุด กราฟิกที่คมชัดที่สุด และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานที่สุด โทรศัพท์ Asus ROG Phone 5 ถือเป็นรุ่นที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมในตอนนี้

ด้วยหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้สูงสุด 144Hz ทำให้หน้าจอของ ROG Phone 5 นั้นทำงานได้อย่างไร้ที่ติ เมื่อรวมกับชิปเซ็ต Snapdragon 888 อันทรงพลังและ RAM ที่มีอัตราสูงสุดกว่า 16GB คุณจะเลือกเล่นเกมไหนบนมือถือเครื่องนี้ นอกจากสเปกแล้ว ยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,000 mAh พร้อมการชาร์จ 65W ซึ่งจะช่วยให้คุณเล่นเกมได้นานต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดพักเพื่อชาร์จโทรศัพท์

คุณสมบัติที่มุ่งเน้นการเล่นเกมนั้นอาจจะเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะคุณจะมีไฟ RGB ที่ปรับแต่งได้ที่ด้านหลัง ปุ่มเสมือนที่ด้านข้าง และลำโพงสเตอริโออันทรงพลังบางตัว ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกม อย่างไรก็ตาม กล้องถ่ายรูปของรุ่นนี้ให้ภาพที่ไม่สดใสมากนัก และไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย ทำให้โทรศัพท์ขาดความคล่องตัวที่สำคัญบางประการในการใช้งาน การออกแบบตัวเครื่องก็อาจจะไม่เหมาะกับรสนิยมของคุณ

หากคุณสมบัติข้างต้นยังไม่เพียงพอสำหรับคุณ ก็ยังมี Asus ROG Phone 5 Ultimate รุ่น Limited Edition ที่เพิ่ม RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลให้มากขึ้น แต่สำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่ต้องการเน้นคุณสมบัติสำหรับการเล่นเกมมากกว่าการใช้งานอื่น ๆ รุ่น ROG Phone 5 ปกติก็เหมาะกับความต้องการ

ด้วยหน้าจอ 60Hz และหน่วยความจำเพียง 6GB คุณอาจจะรู้สึกว่าการเล่นเกมบน iPhone คงไม่ใช่สิ่งที่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม iPhone 12 Pro Max ให้คุณสมบัติที่ไม่มีใครเทียบได้ในบรรดาโทรศัพท์เกมที่ดีที่สุด ด้วยชิปเซ็ต A14 Bionic ของ Apple ที่ล้ำหน้ายิ่งกว่า Snapdragon 888 ใน ROG Phone 5 แม้ว่าในเครื่องจะมี RAM เพียงครึ่งหนึ่งก็ตาม

คุณต้องพิจารณาด้วยว่าเกมมือถือคุณภาพสูงมักจะมีให้ดาวน์โหลดบน iOS ก่อนระบบอื่น หรือเล่นได้จากโปรแกรมสมัครสมาชิก Apple Arcade เป็นแหล่งเกมคุณภาพ คัดสรรมาอย่างดี ซึ่งไม่มีให้บริการในที่อื่น และดูตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่งบนจอแสดงผล OLED ขนาด 6.7 นิ้วของ iPhone 12 Pro Max รุ่นนี้ แม้อัตราการรีเฟรชจะอยู่ที่ 60Hz เท่านั้น นอกจากนี้ iPhone 12 Pro Max ยังเป็นโทรศัพท์ที่ดีไซน์โค้งมนอย่างดีเยี่ยม สะดวกในการใช้งานด้านต่างๆ นอกเหนือจากการเล่นเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านคุณภาพของกล้อง และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน

เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าทำไมผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมอาจจะลังเลที่จะซื้อโทรศัพท์รุ่นยอดนิยมปี 2020 ของ Apple ซึ่งเป็นโทรศัพท์ที่มีราคาแพงในรายการรีวิวฉบับนี้ แถมยังมีที่เก็บข้อมูลน้อยกว่าปกติ และไม่มีแม้กระทั่งแท่นชาร์จมาในกล่องอีกต่อไป เพราะ Apple จำหน่ายแท่นชาร์จแยก

• ราคาแพงเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นที่เป็นคู่แข่ง

หากคุณต้องการโทรศัพท์ Android ระดับไฮเอนด์ที่มีราคาถูกกว่ารุ่นใกล้เคียงเล็กน้อย และยังต้องการประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการเล่นเกมโดยไม่ต้องเสียคุณสมบัติการใช้งานที่อำนวยความสะดวกในด้านอื่น ๆ เช่น การออกแบบ และคุณภาพของกล้อง โทรศัพท์ OnePlus 9 Pro ก็เหมาะกับการใช้งานนั้น และยังเป็นโทรศัพท์สำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดให้คุณด้วย

จอแสดงผล OLED บน OnePlus รุ่นยอดนิยมล่าสุดนี้ มีขนาด 6.7 นิ้ว และมีความละเอียด 1440p ทำให้หน้าจอมีความคมชัดและมีสีสัน แต่สิ่งที่ทำให้ OnePlus 9 Pro เป็นอันดับต้น ๆ ในรายการรีวิวโทรศัพท์สำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดของเรา เป็นเพราะอัตราการรีเฟรชแบบไดนามิก 120Hz มอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและน่าทึ่งสำหรับการเล่นเกมที่เครื่องรองรับเช่น Fortnite แม้แต่อัตราการสุ่มตรวจระบบสัมผัสบนหน้าจอยังเพิ่มขึ้นเป็น 360Hz ด้วยเทคโนโลยี Hyper Touch ใหม่ของ OnePlus ทำให้มีการตอบสนองทันทีในการเล่นเกมที่ต้องการความรวดเร็วเพื่อการเป็นผู้ชนะ

แน่นอนว่า OnePlus 9 Pro ประสบความสำเร็จในด้านอื่น ๆ ด้วย ตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ยาวนานในการชาร์จ และรองรับการชาร์จทั้งแบบมีสายและไร้สายที่รวดเร็วกว่าอุปกรณ์ส่วนใหญ่ มีกล้องสี่ตัวที่ด้านหลัง เป็นคุณภาพคู่แข่งกับโทรศัพท์ iPhone หรือ Galaxy ด้วยการพัฒนาของ Hasselblad ผู้ผลิตกล้องจากประเทศสวีเดน และ OnePlus 9 Pro ยังมีซอฟต์แวร์ที่น่าอัศจรรย์ ช่วยเพิ่มคุณสมบัติบางอย่างให้กับ Android 11 รวมถึงมีอินเทอร์เฟซที่สวยงามและใช้งานง่าย

คุณสมบัติทั้งหมดอยู่ในราคาประมาณ 35,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างแพง มีราคาสูงกว่าคู่แข่งหลายราย แม้จะมีคุณสมบัติการใช้งานที่เป็นมิตรสำหรับเกมเมอร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็เป็นรุ่นที่คุ้มราคาแน่นอนถ้าคุณต้องการโทรศัพท์ที่ใช้งานได้รอบด้าน

RedMagic 5G เป็นหนึ่งตัวเลือกที่มีราคาถูกที่สุด สำหรับการใช้โปรเซสเซอร์ Snapdragon 865 ของ Qualcomm ในตลาดตอนนี้ และยังเป็นหนึ่งในโทรศัพท์สำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุด ด้วยราคาเพียงประมาณ 18,000 บาท คุณจะได้รับทั้งชิปเซ็ตระดับไฮเอนด์, RAM สูงสุด 12GB และจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.65 นิ้ว 144Hz ที่แบนราบและมีขอบจอบาง เอื้อต่อการเล่นเกมในรุ่นนี้ พัดลมภายในยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้สามารถเล่นเกมที่ต้องการความแรงของเครื่องสูงได้อย่างราบรื่น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งหากคุณเล่นเกมเป็นเวลานาน

แน่นอนว่า RedMagic 5G จะไม่เหมาะกับคุณเท่าไหร่ ถ้าตัวซอฟต์แวร์หรือประสิทธิภาพของกล้องที่ยอดเยี่ยมถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคุณ เพราะมีโทรศัพท์มือถืออีกหลายรุ่นที่มาพร้อมกับคุณสมบัติรอบด้านในประสิทธิภาพที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์เหล่านั้นก็จะมีราคาสูงกว่าตามไปด้วย ดังนั้นผู้ที่ต้องการคุณสมบัติสำคัญและความทรงพลังในการเล่นเกม ในงบประมาณที่พอเหมาะ ก็ควรพิจารณาข้อนี้ด้วย

Samsung Galaxy Note 20 Ultra รุ่นใหม่อาจดูไม่เหมือนโทรศัพท์สำหรับเล่นเกม แต่ก็เป็นรุ่นที่คุณสามารถวางใจได้ ถือเป็นหนึ่งในโทรศัพท์สำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดในตลาด ด้วยจอแสดงผลที่ล้ำสมัยที่สุดที่คุณจะพบ สามารถขยายได้สูงสุด 120Hz หรือลดลงเป็น 30Hz หรือ 60Hz เพื่อให้ตรงกับการใช้บนงานหน้าจอ

แต่ Note 20 Ultra ก็เป็นมากกว่าโทรศัพท์รุ่นยอดนิยมที่ทรงพลัง ในรุ่นนี้มีการปรับคุณสมบัติให้เหมาะกับการสตรีม Xbox ผ่าน Xbox Game Pass Ultimate และยังสามารถแคสต์เกมไปยังจอแสดงผลภายนอกผ่านอินเทอร์เฟซ DeX ของ Samsung และ Miracast ได้ด้วย ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเล่นเกมอะไรหรือเล่นอย่างไร ชิปเซ็ต Snapdragon 865 Plus และ RAM ขนาด 12GB ของรุ่น Note 20 Ultra นี้ก็จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นเมื่อคุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียรสำหรับการสตรีมเกม

คุณจะไม่พบคุณลักษณะที่เน้นการเล่นเกมแบบนี้ใน Samsung Note รุ่นล่าสุดอย่างที่คุณคาดหวังจากรุ่น ROG Phone 3 ไม่ว่าจะเป็นพัดลมระบายความร้อนภายนอกแบบหนีบ และทริกเกอร์อากาศที่สามารถปรับแต่งได้ ถ้าคุณต้องการ phablet อันทรงพลังสำหรับการทำงานและการเล่นเกม ก็ไม่มีรุ่นไหนเหมาะกว่า Note 20 Ultra แม้ว่า Galaxy Note 20 ขนาด 6.7 นิ้วในราคาประมาณ 32,000 บาทจะเป็นอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานรอบด้านเช่นกัน แต่ก็มีอัตราการรีเฟรชสูงสุดที่ 60Hz เท่านั้น

หากคุณต้องการโทรศัพท์ Android ที่มีคุณสมบัติครบครัน และยังสามารถเล่นเกมยอดนิยมได้ Samsung Galaxy S21 Plus ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

โทรศัพท์รุ่น S21 Plus มีแผง 120Hz และโปรเซสเซอร์ Snapdragon 888 เช่นเดียวรุ่นยอดนิยมอันดับต้น ๆ รุ่นอื่นของปีนี้ แม้ว่าจะมี RAM เพียง 8GB แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการใช้งาน เพราะยังมีความเร็วแรงในด้านอื่น ๆ มากมาย นอกจากนี้ การรองรับ 5G ยังขยายไปถึงคลื่นที่ละเอียดและเครือข่ายความถี่ย่อย 6GHz ช่วยให้รับส่งข้อมูลขณะที่คุณเล่นเกมออนไลน์นอกบ้านได้ด้วยความเร็วที่สุดในโลก

แม้ว่าจะให้การสนับสนุน Xbox Game Pass แต่ Galaxy S21 Plus ไม่ได้เป็นโทรศัพท์ที่เน้นคุณสมบัติการเล่นเกมอย่างเจาะจงมากนัก แต่เป็นหนึ่งในโทรศัพท์เล่นเกมที่ดีที่สุด และเป็นอุปกรณ์รุ่นยอดนิยมที่ใช้งานได้ยอดเยี่ยม (ที่มีราคาแพงอย่างน่าเสียดาย)

โทรศัพท์เล่นเกมที่ดีมากสำหรับผู้ที่มีงบประมาณค่อนข้างสูง

หากโทรศัพท์สำหรับเล่นเกมในอุดมคติของคุณ ยังเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานแบบโทรศัพท์รุ่นยอดนิยมรุ่นอื่น ๆ Oppo Find X3 Pro ก็อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคุณเช่นกัน

จอแสดงผล 6.7 นิ้วของ Oppo มีแผง QHD ให้อัตราการรีเฟรช 5Hz-120Hz คุณจึงได้รับประสิทธิภาพที่ราบรื่นเมื่อจำเป็นต้องใช้งานในส่วนนี้ ถือเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ดีที่สุดของโทรศัพท์ที่ให้คุณภาพสูงได้ขณะเล่นเกม แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานเมื่อคุณใช้งานทั่วไป อย่างการเลื่อนดูเมนูหรือดูรูปภาพ

ด้วยคุณสมบัติข้อนี้ ทำให้ Find X3 Pro ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้กล้องเช่นกัน โดยมีกล้อง 50MP สองตัว ตัวหนึ่งสำหรับภาพปกติ อีกตัวสำหรับการถ่ายแบบ ultra wide และยังมีกล้องเทเลโฟโต้ความละเอียด 13MP พร้อมการซูมแบบไฮบริด 5 เท่า และเลนส์ไมโครสโคป 3MP สำหรับการถ่ายภาพระยะไกลและระยะใกล้สุดอีกด้วย

เมื่อรวมกับชิป Snapdragon 888 และ RAM ขนาด 12GB ทำให้ Find X3 Pro กลายเป็นคู่แข่งที่สูสีกับโทรศัพท์เล่นเกมที่ดีที่สุดรุ่นอื่น ๆ ในแง่ของประสิทธิภาพได้อย่างง่ายดาย ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ จัดวางกล้องเข้ากับตัวเครื่องหลัก ทำให้ดูสบายตามากกว่ารุ่นอื่นที่มาพร้อมกับสีสันสดใสและไฟกะพริบหลายดวง

น่าแปลกที่รุ่นนี้ยังไม่มีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา แต่ก็เป็นโชคดีสำหรับผู้อ่านของเราและผู้อ่านในประเทศอื่น ๆ ที่ยังสามารถหาซื้อได้ แม้ว่าจะเป็นราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งบางรุ่น ก็ยังถือว่ามีราคาแพงมากประมาณ 36,000 บาท

OnePlus 9 มอบประสบการณ์ระดับพรีเมียมสำหรับนักเล่นเกมที่ต้องการตัวเลือกราคาถูกกว่า พร้อมกับคุณสมบัติการใช้งานที่ครอบคลุมทุกฐาน ถือเป็นรุ่นที่มีราคาต่ำกว่าสิ่งที่ได้อย่างน่าประหลาดใจ

มีจอแสดงผลมีอัตราการรีเฟรชสูง จำเป็นสำหรับการเล่นเกมที่ราบรื่น และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหมาะสม ให้คุณเล่นเกมได้โดยไม่ต้องกลัวว่าโทรศัพท์จะแบตหมด คุณจะได้รับระบบประมวลผลที่ดีที่สุดของ Snapdragon 888 รองรับการใช้ 5G สำหรับการเล่นเกมในขณะเดินทาง

OnePlus นำเสนอโหมด Pro Gaming เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน และให้ตัวเลือกสำหรับปิดการแจ้งเตือนของคุณขณะเล่นเกม ภายใน Oxygen OS ที่ออกแบบมาอย่างดีสำหรับแพลตฟอร์ม Android 11 มาพร้อมเสียงจากลำโพงสเตอริโอ ช่วยให้คุณติดตามการเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่เมื่อไม่ใช้หูฟัง นอกเหนือจากคุณสมบัติในการเล่นเกมแล้ว ยังมีการชาร์จที่รวดเร็วกว่า 65W และกล้องที่พัฒนาโดย Hasselblad ที่ด้านหลังตัวเครื่องด้วย

ถ้าดูจากคุณสมบัติ คุณอาจต้องการโทรศัพท์รุ่นอื่นที่เน้นการเล่นเกมมากกว่า หรือมีสเปกโดยรวมที่ดีกว่า แต่ถ้าพิจารณาจากราคาประมาณ 24,000 บาท ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่ามากกับคุณสมบัติโดยรวมที่ได้และความสามารถในการเล่นเกมโดยเฉพาะ

ในการรวบรวมสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของเรา ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์สำหรับเล่นเกมหรือโทรศัพท์ที่มีคุณสมบัติอย่างอื่น ทีมงานของเราจำเป็นต้องทำการทดสอบหลายอย่างบนโทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง ซึ่งเราทำการทดสอบเหล่านี้บางส่วนในห้องปฏิบัติการ และบางส่วนเป็นการทดสอบจากการใช้งานจริง

เมื่อพูดถึงการวัดประสิทธิภาพ เราใช้เกณฑ์มาตรฐานอย่าง Geekbench 5 และ GFXBench เพื่อวัดประสิทธิภาพกราฟิกของโทรศัพท์ การทดสอบเหล่านี้ทำให้เราสามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง iPhone และอุปกรณ์ Android ได้เป็นอย่างดี เรายังทำการทดสอบการแปลงรหัสวิดีโอด้วยแอป Adobe Premiere Rush และจับเวลาผลลัพธ์ สำหรับวัดผลการใช้งานจริงบนโทรศัพท์แต่ละเครื่อง

สำหรับการวัดคุณภาพการแสดงผลของโทรศัพท์ ทีมงานของเราได้ทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อกำหนดความสว่างของแผงหน้าจอ (เป็นหน่วย nits) รวมถึงสีสันของหน้าจอแต่ละรุ่น (ในช่วงสี DCI-P3) ในการทดสอบเหล่านี้ ตัวเลขที่สูงกว่าจะหมาถึงผลลัพธ์ที่ดีกว่า นอกจากนี้ ยังมีการวัดความถูกต้องของสีบนแผงด้วยการจัดระดับ Delta-E ซึ่งสำหรับการทดสอบนี้ ตัวเลขที่ต่ำกว่าจะดีกว่าและคะแนน 0 นั้นแปลว่าได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ

การทดสอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่เราดำเนินการ คือการทดสอบแบตเตอรี่ของ Pro Review โดยใช้งานเพื่อการท่องเว็บผ่าน 5G หรือ 4G ที่ความสว่างหน้าจอ 150 nits จนกว่าแบตเตอรี่จะหมด โทรศัพท์ที่สามารถใช้งานได้ 10 ชั่วโมงขึ้นไปถือเป็นประสิทธิภาพที่ดี และถ้ารุ่นไหนสามารถใช้ได้นานมากกว่า 11 ชั่วโมงขึ้นไป ก็จะถือว่าแบตเตอรี่ของโทรศัพท์รุ่นนั้นใช้งานได้ดีมาก

สุดท้าย เราได้นำโทรศัพท์ที่ดีที่สุดมาใช้ทดสอบภาคสนาม ด้วยการถ่ายภาพกลางแจ้ง ในอาคาร และในเวลากลางคืนในที่แสงน้อย เพื่อดูว่ากล้องของโทรศัพท์รุ่นนั้นทำงานได้ดีแค่ไหนเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงที่สุด เราได้ลองถ่ายภาพทิวทัศน์ อาหาร ภาพบุคคล และภาพแบบอื่นๆ ซึ่งคุณสามารถเป็นผู้ตัดสินผลลัพธ์เหล่านี้ได้ด้วยภาพเปรียบเทียบในรีวิวของเรา

การเลือกโทรศัพท์สำหรับเล่นเกมที่เหมาะสมต้องดูจากการให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก เช่นเดียวกับการเลือกซื้ออุปกรณ์อื่น ๆ หากคุณกำลังตามหาประสิทธิภาพที่ดีที่สุดจากรีวิวนี้ คุณจะต้องการโทรศัพท์ที่มีชิปเซ็ต Snapdragon 8-series หรือ A14 Bionic ของ Apple โดยเฉพาะ Snapdragon สำหรับโทรศัพท์ Android ที่มีคุณภาพดีที่สุดจาก Qualcomm เป็นชิปเซ็ตที่มีอยู่ในอุปกรณ์จากผู้ผลิตหลายรายในบทความของเรา

แต่ถ้าพิจารณาจากอัตราการรีเฟรชที่มีค่าสูง คุณจะพบกับตัวเลือกที่มีราคาแพงกว่า แม้ว่าคุณสมบัตินี้จะมีในรุ่นที่ราคาถูกลงมากขึ้นในอนาคต แผงหน้าจอที่มีอัตรา 90Hz ขึ้นไป จะทำให้คุณเลื่อนและดูกราฟิกโดยรวมได้ราบรื่นกว่าหน้าจอทั่วไป คุณจะรู้สึกได้ว่าการปัด การแตะ และการสัมผัสที่มีการตอบสนองจะรวดเร็วมาก หากคุณเป็นนักเล่นเกมที่มีการแข่งขันสูงเป็นพิเศษ อัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นจะช่วยให้คุณเล่นเกมได้สนุกเต็มที่

แน่นอนว่า ยิ่งอุปกรณ์เน้นคุณสมบัติการเล่นเกมมากเท่าไหร่ ผู้ผลิตโทรศัพท์ก็จะให้ความสำคัญกับคุณสมบัติการใช้งานในด้านอื่น ๆ น้อยลงไปเช่นกัน หลายรุ่นมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน ที่เป็นหัวใจสำคัญของการเล่นเกม (เนื่องจากเกมใช้พลังงานมาก) แต่คุณจะหาโทรศัพท์สำหรับเล่นเกมที่มีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของกล้องที่ยอดเยี่ยมได้ค่อนข้างยาก เช่นเดียวกับคุณสมบัติที่ช่วยอำนวยความสะดวก เช่น การชาร์จแบบไร้สาย และการกันน้ำ หากสิ่งเหล่านั้นมีความสำคัญต่อคุณ เราขอแนะนำให้เลือกซื้อโทรศัพท์ที่ทรงพลังและใช้งานได้รอบด้านกว่าในรายการนี้ ซึ่งไม่ได้มีไว้สำหรับการเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังมีความโดดเด่นของตัวเอง เช่น Galaxy Note 20 Ultra และ iPhone 12 Pro Max

Comments

Post Comments